น่าคิดนะ : นัยยะวิชาที่เราเรียน ว่าเราใช้ประโยชน์บ้างหรือไม่
เริ่มแต่สมัยอนุบาล
วิชาภาษาอังกฤษ ทุกคน เริ่มที่ ant แอ๊น มด /dog ด๊อก สุนัข / This is a book
เมือเราอยู่สมัยประถม ก่อนเข้า ชม.เรียน. มีท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ สูตรคูณ บทอาขยาน
เด็กนักเรียนท่องตามครูสั่งโดยไมได้สงสัยว่าท่องทำไม หรือท่องให้เสร็จๆไปครูจะได้ไม่ดุ
เราลองไล่วิชาที่เราเรียนแต่เด็กว่ามีอะไรบ้าง และวิชาเหล่านั้นมีนัยยะแฝงอยู่ เรียนแต่
อนุบาล ประถม จนถึง มัธยม เรียน tense gramma จนแม่นเป๊ะ ข้อสอบถามว่า
ประโยคเหล่านี้ เขียนถูกต้องไหม แต่พอเด็กไทยเจอฝรั่งถามทาง บางคนพอตอบได้
บางคน แทบจะวิ่งหนีฝรั่งเอาเลย หรือบางคนใช้ภาษามือสือสารกับต่างชาติ
วิชาเลข : หลายคนบอกเป็นวิชายาขม เอาเลย บางคนแอบนินทาคุณครูว่า จะสอนให้
เด็กเป็นเด็กวิศวะทุกคนเลยหรือไง วิฃาเลขสมัยเรียน มี ค่าพาย ตรีโกรน เรขาคณิต
ค่า xy เศษส่วน หลายคนพอเรียนจบทำงานนึกในใจว่า ที่เราเรียนมาหลายปี
พอทำงานไมได้ใช้เลย ใช้แค่บวกลบคูณหาร ไว้ตอนซื้อของ หรือทางลัดกด
เครื่องคิดเลขเลย
วิชาภาษาไทย : หลายคนแอบบ่นอีก เข้าใจยาก วิชาที่เราเรียน มีแม่กด กบ/เสียงเอก
โท ตรี /อักษรสูงกลาง ต่ำ และอื่นๆอีกมากมาย ข้อสอบเช่นเคย ถามว่า ประโยคนี้
ประกอบด้วย เสียงอะไรบ้างบอกมาให้ครบ หลายคนบอกว่าพอเรียนจบทำงาน
ไม่เห็นได้ใช้ ใช้แค่เขียนธรรมดา ไม่เห็นมีไล่เสียงอะไรเลย
วิชาวรรณคดี : เราอ่านวรรณคดีไทยมากมาย บอกว่า อ่านแล้วงง เข้าใจยาก
และมีท่องบทในวรรณดคี รวมถึง อาขยาน เช่น สักวาหวานอื่นมีหมืนแสน
ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม เป็นต้น พอขึ้นชั้นใหม่ ก็ลืมท่องปีที่แล้ว
และเช่นเดิม หลายคนบอก ท่องแทบตาย จบทำงาน ไมไดใช้
วิชาสังคม : เรียนว่าประเทศไทยมีรูปร่างเป็นขวานประกอบด้วยกี่ภาค กี่จังหวัด
มีภูมิประเทศอย่างไร มีประเทศหรือทะเลอะไรล้อมรอบ ส่วนโลก ประกอบด้วยกี่ทวีป
เป็นต้น เช่นเดิมคนบอกว่า เอาไปใช้อะไรตอนทำงานหละ
วิชาประวัติศาสตร์ : เรียนประวัติไทยเริ่มสร้างเมืองแต่สุโขทัย สมัยพ่อขุน
ประดิษฐอักษรไทย มาสมัยอยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ เป็นต้น หลายคนบอก
ท่องกันเยอะแยะ เป็นวิชาท่องจำ ท่องให้สอบผ่านๆ เพราะคิดว่า จบไปเอาใช้ทำอะไร
วิชาคหกรรม : เย็บปักถักร้อย ถักนิกติ้ง แกะสลักผลไม้ ทำอาหาร พอเรียนจบทำงานจริง
บางคน ใช้เต็มที่ ไว้เย็บกระดุม หรือเวลาทำกับข้าวจริงๆแค่เอาทุกอย่างโยนลงกระทะ
บางคน ใช้เต็มที่ ไว้เย็บกระดุม หรือเวลาทำกับข้าวจริงๆแค่เอาทุกอย่างโยนลงกระทะ
แล้วคลุกๆ
วิชาพุทธศานา : เรียนประวัติพระพุทธเจ้า ว่า ตอนประสูติ เดินได้บนดอกบัว
จนมาถึง ออกบวช แระตรัสรู้ หลักคำสอน มีบัว 4เหล่า เด็กเรียนไปบางทีหลับไป
พอแด็กโตขึ้นเราถามว่า วันวิสาขะ สำคัญอย่างไร ตอบกันไม่ค่อยได้ เพราะลืมแล้ว
รู้แค่เวียนเทียนที่วัด
วิชานาฏศิลปะ : มีฟ้อนรำ คงหนีไม่พ้น รำเชิญพระขวัญ ขวัญเจ้าเอย ขวัญเอย
มาสู่องค์เอย ขอเชิญพระขวัญ เมื่อวันเดือนเพ็ญ หรือบางคนเรียนรำ พลายชุมพล
หลายคนรำ เก้ๆกั้งๆ ตอนนั้น
วิชาวิทยาศาสตร์ : เนือหาต่างๆมากมาย และมีเข้าแล๊บ ทดลองทางวิทยาศาสตร์
โดยผสมสารต่างๆในห้องหลอดทดลองยาวๆ บางทีใช้ตะเกียงเป็นตัวช่วย
เมือทดลองเสร็จให้เด็กเขียนผลการทดลองส่งครู เช่นเดิมเรียนจบทำงาน
บางคนความรู้ฝากครูเกือบหมด
วิชาเกษตรกรรม : ขาดไมได้ เพาะถั่วงอก ดองไข่เค็ม หรือบางที ปลูกผักบุ้ง
มีลงแปลงเกษตร บางคนบอกดุ ยูทุป 5 นาทีก็ทำได้แล้ว
วิชาพละศึกษา : มีวิ่ง ตีปิงปอง แชร์บอล ฟุตบอล บางคนแอบบอกว่า เป็นวิชายาขม
อีกวิชานึง จบไปทำงาน แทบไมได้เล่น มีบ้างตอนกีฬาประจำปีของหน่วยงาน